วันพฤหัสบดีที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ใบความรู้ที่ 2.1 การตั้งสมมุติฐาน

ใบความรู้ที่ 2.1
การตั้งสมมุติฐาน

           การตั้งสมมุติฐาน คือ ข้อคิดเห็น หรือถ้อยแถลงที่ใช้เป็นมูลฐานแห่งการหาเหตุผล การทดลอง หรือการวิจัย เรียกว่า สมมุติฐาน (ราชบัณฑิตยสถาน. 2546 : 1127) ซึ่งเป็นวิธีการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์โดยการเริ่มต้นจากการตั้งประเด็นปัญหา จากนั้นจะศึกษาค้นคว้า รวบรวมข้อมูลเพื่อคาดคะเนคาตอบของปัญหานั้นสมมุติฐาน ต้องสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
           สมมุติฐานการศึกษาค้นคว้า เป็นคำตอบสรุปของผลการศึกษาที่ผู้ศึกษาค้นคว้าคาดคะเน หรือพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าก่อนการเก็บรวบรวมข้อมูล คำตอบดังกล่าวได้มาจากการไตร่ตรองโดยใช้เหตุผลที่น่าจะเป็นให้มากที่สุด โดยมีรากฐานของทฤษฏี ผลการศึกษาค้นคว้า หรือผลการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้น (บุญชม ศรีสะอาด. 2545 : 34) ซึ่งผู้ศึกษาค้นคว้ามั่นใจว่าผลการศึกษาค้นคว้าจะตรงกับสมมุติฐานที่ตั้งไว้ แต่ผลการศึกษาค้นคว้าจริงอาจจะตรง หรือไม่ตรงกับสมมุติฐานก็ได้ สิ่งสำคัญ คือ ผู้ศึกษาค้นคว้าต้องอธิบายได้ว่าผลการศึกษาค้นคว้าเป็นเช่นนั้นเพราะเหตุใด
           สมมุติฐานแบ่งได้ 2 ประเภทดังนี้ (จรัญ จันทลักขณา และกษิดิศ อื้อเชี่ยวชาญกุล. 2551 : 38)
           1. สมมุติฐานทางสถิติ กำหนดขึ้นก่อนการทดลอง เป็นสมมุติฐานที่กำหนดเมื่อไม่รู้ว่ามีให้กำหนดในเบื้องต้นว่าไม่มีเช่น ไม่มีความแตกต่าง ไม่มีความสัมพันธ์ เป็นต้น
           2. สมมุติฐานทางเลือก ในการศึกษาค้นคว้าให้ตั้งสมมุติฐานทางเลือกเพื่อใช้เป็นทางเลือกในการสรุปผล ถ้าหากผลการทดสอบทางสถิติชี้ว่าไม่จริงแล้วยอมรับเช่น มีความแตกต่าง มีความสัมพันธ์ เป็นต้น
           ประโยชน์ของสมมุติฐาน
           1. ใช้ตรวจสอบผลการศึกษาค้นคว้าได้
           2. จากัดขอบเขตการศึกษาค้นคว้าให้ดาเนินไปตามวัตถุประสงค์
           3. ช่วยให้เข้าใจเรื่องที่ศึกษาค้นคว้าได้ชัดเจน


รายการอ้างอิง
จรัญ จันทลักขณา และกษิดิศ อื้อเชี่ยวชาญกุล. (2551). คัมภีร์การวิจัย และการเผยแพร่สู่นานาชาติ.
           พิมพ์ครั้งที่ 2. นนทบุรี : นิติธรรมการพิมพ์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2546). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.. 2542. กรุงเทพฯ :

           นานมีบุคส์พับลิเคชั่น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น